วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

สุนัขพันธุ์ ดัลเมเชียน




ลักษณะจุดที่สวยงามของ ดัลเมเชียนทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะโดดเด่นจากสุนัขพันธุ์อื่นๆ ลูกสุนัขที่เพิ่งเกิดจะมีสีขาวทั้งตัวแล้วจะเริ่มเห็นจุดสีดำหรือสีตับเมื่ออายุได้ประมาณ 2 สัปดาห์สายพันธุ์บรรพบุรุษที่ใกล้ชิดกับสุนัขพันธุ์ ดัลเมเชียน ในยุควิกตอเรีย มีชื่อเสียงในการคุ้มกันกองคาราวานและวิ่งตามรถม้าของผู้ดีในยุคนั้นโดยฝูง ดัลเมเชียน จะกระจายอยู่ด้านหน้าข้างๆ และด้านหลังของตัวรถดัลเมเชียนมีความผูกพันกับม้าเป็นอย่างมากแม้ในปัจจุบัน ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ ถ้านำดัลเมเชียน ไปปล่อยไว้ใกล้ๆกับม้าเราจะเห็นดัลเมเชียนโดย ส่วนใหญ่เข้าไปทักทายกับม้าทันท ี สุนัขพันธุ์นี้เคยถูกใช้คุมฝูงวัวและเกวียนในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเวียดนาม จะพบเขาได้ตามรถดับเพลิงและเป็นที่รักของเจ้านายในยุควิกตอเรีย เป็นสุนัขที่ใช้การแสดงต่างๆ ใช้ในกีฬาล่าสัตว์เขามีความสามรถมากมายหากคุณจะใจรับเขา 


ดัลเมเชียน มีชีวิตอยูได้ 12-14 ปี 

มีขนาด 56-61ซม. 

ดัลเมเชีย เป็นสุนัขรักสนุกที่แม้จะติดตลกด้วย้ำ แต่ก็ยงมีความสง่างามในตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ประจำของสุนัขพันธุ์นี้"รอยิ้ม" ของเขาที่เราเห็นบ่อยมักจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นการแยเขี้ยคำรามถ้าไม่เหลือบไปเห็นหางระริกระรี้ที่กระดิกอยางเป็นมิตรอย่ด้วยวามที่เป็นสุนัขอ่อนไหวเขาจะคอยามติด และคอย้อนขอความรักจากคุณเสมอ 


ไม่ต้องการการดูแลเรื่องความสะอาดและการตัดแต่งขนมากนัก ไม่เหมือนกับพันธุ์อื่น เนื่องจากมีที่ขนสั้นแน่น ดัลเมเชียน ต้องการการแปรงบ้างในบางครั้งเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดี ด้วยความที่เป็นสุนัขที่แข็งแรงและตื่นตัว ดังนั้นต้องคอยฝึกให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของเราด้วย รวมทั้งต้องพาพวกเขาไปเดินเล่นเดินทุกๆ วันและต้องให้เขาอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด 

ดัลเมเชียน มีความเสี่ยงที่จะเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย และบางตัวอาจมีปัญหาโรคผิวหนัง ขณะที่บางตัวอาจหูหนวกตั้งแต่เกิด



มาดูความน่ารักของ ดัลเมเชียน


วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สุนัขพันธุ์ บูลเทอร์เรีย


สุนัขพันธุ์ บูลเทอร์เรีย

สุนัขพันธุ์ บูลเทอร์เรีย เป็นนักสู้ที่อ่อนหวานโดยธรรมชาติ เป็นนักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตของเขาโดยสัญชาติญาณ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีเนื้อที่จำกัดจะนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อช่วยอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขอารักขาที่ดี แล้วยังเป็นสุนัขที่ประหยัดอีกด้วย บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เขาอยู่ในโอวาทควรมีการฝึกปรือตั้งแต่วันแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะเลี้ยงเขารวมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โดยธรรมชาติแล้วจะก้าวร้าวกับสุนัขที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น
บูลเทอร์เรียเป็นสุนัขที่มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว จิตใจเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาดเป็นเลิศ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างแรงกล้า แต่อีกส่วนก็มีจิตใจที่อ่อนหวาน อ่อนโยน ไม่ดื้อดึงกับระเบียบวินัย
มาตราฐานสายพันธุ์
ศีรษะ : ต้องยาวมีความแข็งแรง ใบหน้าเต็มมองดูคล้ายไข่ ระยะจากปลายจมูกไปยังลูกตาเห็นได้ชัดเจนกว่า ระยะจากตาไปยังส่วนบนของกะโหลก กรามบนควรจะลึกและมองเห็นขอบเขตได้ชัดเจน
หู : ควรจะเล็ก บางและมีตำแหน่งใกล้กัน ตั้งตรงอยู่ตลอดเวลา
ตา : จมลึกอย่างพอเหมาะ สีเข้ม เป็นประกาย ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม ข้อด้อยของสุนัขพันธุ์นี้คือมีตาสีฟ้า
จมูก : ควรเป็นสีดำ โค้งลงไปสู่ปลาย
คอ : เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ยาวและเป็นสันโค้ง ผิวเรียบไม่หย่อนยาน
อก : มองจากด้านหน้าอกต้องกว้าง มองจากด้านข้างอกลึก บริเวณอกใกล้พื้นกว่าบริเวณท้อง
ลำตัว : หลังต้องสั้นและแข็งแรง หัวไหล่ต้องกว้างและเรียบ มีความลาดเอียงไปด้านหลังอย่างเด่นชัด
ขา : มีกระดูดใหญ่ ไม่มีจุดที่น่าเกลียด เหยียดตรงได้รูป ข้อศอกทั้งสองข้างกางออก ข้อเท้าสั้นและตั้งตรง
เท้า : กลมและกระชับ มีขอบเขตชัดเจนเหมือนเท้าแมว
หาง : สั้น ห้อยต่ำ เรียว บริเวณโคนหางต้องหนาและเรียวแหลมไปยังปลาย
ขน : สั้น เรียบ เมื่อลูบจะสาก ขนเป็นมัน หนังต้องตึง
สี : ปรกติเป็นสีขาว มีสีอื่นบนใบหน้าเป็นที่ยอมรับได้ แต่ถ้ามีสีอื่นบนลำตัวจะกลายเป็นข้อด้อย
การเดิน : มีอิสระในการก้าวย่าง ขาหน้าและขาหลังเคลื่อนไหวขนานกัน ต้องหนักแน่น กระฉับกระเฉง
ข้อด้อย : ใบหน้าที่โค้งโก่งมาก ตาสีฟ้า มีสีขนสีอื่นมากกว่าสีขาว

ดูความน่ารักของ บูลเทอร์เรีย

เยอรมันเชฟเฟิร์ด (German Shepherd)





ลักษณะทั่วไป


     สิ่งที่ประทับใจของผู้ที่ได้พบเห็นเยอรมันเช็พเพอดที่ดีคือ ความแข็งแรงว่องไว เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตื่นตัวและมีชีวิตชีวา มองโดยรวมแล้วจะกลมกลืนและได้สัดส่วนกันระหว่างส่วนหน้าและส่วนท้าย ตัวจะยาวกว่าส่วนสูง ลำตัวลึก เส้นรอบตัวจะเป็นเส้นโค้งที่กลมกลืนแทนที่จะเป็นเหลี่ยมมุม มีขนาดค่อนข้างใหญ่และอ่อนแอ ให้ความรู้สึกไม่ว่าจะอยู่นิ่งหรือเคลื่อนไหวถึงความกระชับของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนที่อย่างนุ่มนวล

 ความเป็นมา


     มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อัลเซเชี่ยน" ผู้คนนับพันนับหมื่นทีต้องอยู่ในโลกมืด ได้อาศัยเจ้าเยอรมันเช็พเพอดนี่แหละที่คอยเป็นพี่เลี้ยงนำทางไหนต่อไหนได้ พิทักษ์สันติราษฎร์ในเยอรมันนี แคนาดา ตามตรอกซอกซอยของบัลติมอร์ หรือในสวนสาธารณะของไฮด์ปาร์คที่มืดสลัว ไปด้วยม่านหมอกในใจกลางกรุงลอนดอน

     ย่อมรู้ดีว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานรักษากฎหมาย ที่ไม่ย่นระย่ออย่างใดทั้งสิ้น เขาทำหน้าที่เฝ้าเหมืองเพชรในคิมเบอร์ลี่ย์ก็ได้ เฝ้าโรงเรียนในนิวยอร์คก็ได้ หรือให้เฝ้าฐานทัพอากาศที่ทริโปลีก็ได้ ไม่มีใครสามารถคำนวณได้ว่าสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ได้ช่วยชีวิตคนไว้เท่าไรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่สอง โดยที่การดมกลิ่นหาทหารบาดเจ็บบ้าง ถือสารและลำเลียงเวชภัณฑ์บ้าง คอยเตือนหน่วยลาดตระเวนในป่าต่อการถูกซุ่มโจมตีบ้าง ตลอดจนการตรวจรักษาแนวชายฝั่งทะเลเพื่อกันการก่อวินาศกรรม และค้นหาชาวบ้านที่ถูกซากปรักหักพังทับถมอยู่เนื่องจากการถูกระเบิดทางอากาศ ในยามไม่มีศึกสงคราม มันก็ทำงานเป็นการกุศล

     เนื่องจากจมูกที่ไวสามารถนำคนค้นหาพวกที่ถูกหิมะถล่ม ฝังเอาไว้ในเทือกเขาแอลป์ของสวิส ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างที่สวยงาม เฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากการผสมของสุนัขต้อนแกะหลายชนิดมานับศตวรรษ ซึ่งรวมเอาสุนัขที่มีขนาดย่อมแต่ว่องไวของท้องทุ่งเยอรมันภาคเหนือ กับสุนัขที่โตล่ำสันกว่าของภูมิภาคที่เป็นขุนเขาทางใต้เอาไว้ด้วย แม้จะสิ้นศตวรรษที่ 19 ยุคเลี้ยงแกะของเยอรมันได้สิ้นสุดลง แต่อย่างไรก็ตามนักเพาะพันธุ์สุนัขไม่กี่คนก็ยังพยายามสงวนพันธุ์อันมีคุณสมบัติอันวิเศษในการเลี้ยงแกะเอาไว้

     ซึ่งนับว่าควรแก่การยกย่องมากที่สุดได้แก่ ร้อยเอกทหารม้าผู้หนึ่งชื่อ มาร์กฟอนสเตฟานิตช์ ซึ่งได้ลงเรี่ยวลงแรงแข็งขัน เพื่อที่จะทำให้สุนัขพันธุ์นี้เข้ามาตรฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1889 และได้เจริญเติบโตเรื่อยมาจนมาเป็นสโมสรสุนัขที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยการเพาะพันธุ์สุนัขอย่างเดียว จากความพยายามของร้อยเอกฟอนสเตฟานนิตช์กับพรรคพวก ที่ได้พยายามเสาะหาสุนัขที่ใช้งานได้ดีและฉลาด และแล้วผลที่ได้ก็น่าภาคภูมิใจ ที่เมื่อมองสุนัขพันธุ์นี้ขณะที่มันปฏิบัติตามคำสั่งของนายโดยไม่ผิดพลาด


ลักษณะนิสัย

     เยอรมันเช็พเพอดมีบุคลิกที่เด่นชัดคือ มีการแสดงออกถึงความไม่หวาดหวั่นแต่ก็ไม่ก้าวร้าว มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความกระตือรือร้นและตื่นตัวกระฉับกระเฉง เต็มใจจะรับใช้เต็มที่ในลักษณะของการเป็นเพื่อน เป็นสุนัขเฝ้าบ้านนำทางผู้ที่อยู่ในโลกมืด เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ หรือทำหน้าที่อารักขา สุนัขจะไม่ขี้ขลาดหรือหลบอยู่หลังผู้เป็นเจ้านาย ไม่ควรจะอ่อนไหว ไม่มองไปรอบๆ หรือแหงนหน้ามอง ไม่แสดงอาการตื่นตระหนก โดยจะหางตกเมื่อได้ยินเสียงหรือมองเห็นสิ่งแปลกๆ หากสันขมีอุปนิสัยดังกล่าวข้างต้นจะถูกตัดสินว่ามีความบกพร่องอย่างร้ายแรง สุนัขจะต้องยอมให้กรรมการตรวจฟันและลูกอัณฑะ ถ้าหากสุนัขกัดกรรมการจะต้องถูกไล่ออกจากสนามประกวด สุนัขที่อยู่ในอุดมคติควรที่จะสามารถใช้งานในลักษณะที่ไม่หยิบโหย่ง ผสมผสานกับลำตัวและการก้าวย่างที่เหมาะกับงานการที่ทำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน

การดูแล

     เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องการการดูแลเอาใส่ใจ เขาเป็นสุนัขที่ร่าเริง และต้องการสิ่งเร้าทางใจอยู่บ้าง ดังนั้นการพาเดินควบคู่กับการฝึกวินัยเป็นประจำ จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของสุนัขได้ดี นอกจากนี้ควรพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อเผาผลาญพลังงาน จะได้ไม่อ้วน และมีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ดุ หรือ ก้าวร้าว การทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ แต่ควรแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อย 2 วันต่อครั้ง



ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เหมาะสมที่จะเลี้ยง เยอรมัน เชพเพิร์ด คือคนที่สามารถสั่งและควบคุมสุนัขของเขาได้ และในทางกลับกันก็ต้องให้ความเคารพในตัวสุนัขด้วย คนเหล่านี้ควรจะร่าเริง และมีความสุขกับสุนัขของเขาโดยปราศจากอาการหัวเสียหรือคาดหวังให้เป็นสุนัขขี้อ้อน

 

 ข้อควรจำ


     การเลือกซื้อ เยอรมัน เชพเพิร์ด ให้ดี ควรแน่ใจว่า ทั้งประวัติพ่อพันธุ์และประวัติแม่พันธุ์ของลูกสุนัขตัวนั้นผ่านการตรวจโรคข้อสะโพกอักเสบแล้ว สภา เยอรมัน เชพเพิร์ด ของออสเตรเลีย ยังมีหลักสูตรการปรับปรุงพันธุ์ที่จะช่วยกรองสุนัขเพศผู้ ที่เป็นโรคโลหิตจางและโรคข้อศอกอักเสบอีกด้วย
  ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้







 

ปอมเมอเรเนียน ( pomeranian )




ลักษณะทั่วไป


     สุนัขปอมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆ ว่า น้องปอมอยู่ในกลุ่ม Toy Group มีขนาดกระทัดรัด หลังสั้น ขนชั้นล่างอ่อนนุ่ม แน่นทึบ ขนชั้นนอก ยาว ฟู มีมาก ค่อนข้างหยาบ ตำแหน่งโคนหางสูง ขนหางแน่น เป็นพวง หางวางราบบนหลัง ปอมส่วนใหญ่ ท่าทางตื่นตัว ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น แสดงความฉลาดให้เห็นได้เสมอ มีย่างก้าวที่คล่องแคล่ว สง่างาม และมั่นคง


 ความเป็นมา


     บรรพบุรุษของน้องปอมย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์

     เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นน้องปอมในปัจจุบัน ครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโดรเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์

     ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น

     แสดงว่าสุนัขพันธุ์ปอมนี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมาตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงมีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก

     ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมฯ ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากปอมฯ ที่เป็นต้นตำรับ 4-5 ปอนด์ ความฉลาดและความสามารถของปอมฯ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมฯ เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น มีการตั้งชมรมคือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว


ลักษณะนิสัย


     น้องปอมส่วนใหญ่มีการแสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ขี้ประจบ แต่เป็นสุนัขค่อนข้างตกใจง่าย เห่ามาก ยิ่งตัวเล็กยิ่งเห่าเก่ง

การดูแล


     การที่จะรักษาขนของสุนัขปอมเมอเรเนียน ให้สวยงามนั้นทำได้ง่ายมาก เจ้าของสุนัขใหม่ๆส่วนใหญ่จะเชื่อว่า จะต้องอาบน้ำให้สุนัขทุกสัปดาห์ และต้องคอยแปรงขนตลอด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และจะทำให้ขนของเค้าเสียอีกด้วย

     การอาบน้ำบ่อยเกินไป จะทำให้ขนของปอมเมอเรเนียนแห้ง บาง และทำให้ขนร่วงตลอดเวลา การใช้โลชั่น และน้ำยาทำความสะอาดชนิดต่างๆ ติดต่อกันก็จะทำให้ผิวหนังอักเสบได้ ส่วนใหญ่แม้ว่าขนชั้นนอกจะสกปรกแล้ว แต่ขนชั้นในก็จะยังคงสะอาดอยู่ ด้งนั้นการแปรงขน เพียงสัปดาห์ละครั้ง และใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่อุ่นๆ ลูบขน จากนั้นจึงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดอุ่นๆ ซึ่งบิดพอหมาดๆ ก็นับว่า เพียงพอที่จะทำให้ขน ของปอมเมอเรเนียนอยู่ในสภาพดีแล้ว

    แชมพูที่ใช้อาบน้ำให้สุนัขควรเป็นแชมพูที่ผลิตโดยเฉพาะ เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อการระคายเคืองของผิวหนังและสภาพขน ในขณะอาบน้ำอาจจะใช้สำลีอุดรูหูทั้งสองข้างก่อนอาบ หรือใช้มือกดใบหูทั้งสองข้างให้หลุบลง เวลาอาบน้ำควรราดน้ำให้เปียกทั่วตัวก่อนแล้วจึงเทแชมพูลงไปแล้วเกาให้ทั่วลำตัว หลังจากนั้นก็ใช้น้ำล้างสบู่ออกให้สะอาดหมดจด เมื่ออาบเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้แห้งพร้อมกับแปรงขนทุกครั้ง การเช็ดตัวให้แห้งเป็นการป้องกันความอับชื้นซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค และช่วยป้องกันโรคปอดบวมได้

     ส่วนในด้านของการออกกำลังกายนั้น การออกกำลังกายมากๆ หรือใช่พื้นที่เยอะๆ ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับปอมเมอเรเนียน แต่เราควรหันมาใส่ใจสักนิด ควรเริ่มพาปอมฯออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็กเพราะจะสามารถควบคุมเวลาในการออกกำลังกายไ ด้ ควรให้เดินเล่นวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที ถ้าปล่อยให้วิ่งเล่นกลางแจ้งนานเกินไป(โดยเฉพาะเวลาที่แดดจัด)อาจทำให้สุนัขเกิดอาการช็อค อาการนี้อาจส่งผลให้สุนัขเสียชีวิตได้

     การพาน้องปอมไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ปอมท้องไม่ผูก และสามารถป้องกันโรคได้อีกหลายๆชนิด การที่สุนัขได้วิ่งด้วยความเร็วและสนุกสนาน มีผลดีต่อหัวใจ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ ต่อมขับต่างๆ ได้อุ่นเครื่องจนร้อน เมื่อกลับจากการออกกำลังกายก็สามารถกินอาหารได้มากขึ้น ยิ่งถ้าได้อาหารที่ถูกต้องยิ่งทำให้สุนัขมีสัดส่วนที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงมันจะมี step การเคลื่อนไหวที่ดี และสวยงาม อย่างไรก็ดีไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายหลังจากที่กินอาหารอิ่มเต็มที่
 
{pic-alt}


วีดีโอ ปอมเมอเรเนียน




Shih Tzu (ชิสุ)




ประวัติ
ชิสุ (Shih Tzu) ชื่อของสุนัขพันธุ์นี้มาจากภาษาจีน แปลว่า สุนัขสิงโตเป็นสุนัขในสามสายพันธุ์ชั้นสูง พวกเดียวกับปักกิ่งและปั๊ก เป็นสุนัขที่หรูหราที่สุดจากจักรพรรดิจีน สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักนอกอาณาจักรจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 เริ่มจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ชิสุเป็นสุนัขตัวเล็กขนยาว เจ้าเสน่ห์มีหางไม่ยาวนักยกสูงขึ้นเหนือหลัง ขนที่หัวมักจะโดนรวบขึ้นแล้วผูกโบว์สีแดงดูสะดุดตามาก มีท่วงทำนองการเดินสูงศักดิ์แบบขุนนาง แต่มันเป็นมิตรกับทุกคน ลักษณะการเห่าของชิสุจะมีความเป็นเฉพาะตัวอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่มันจะเห่าทักทายด้วยเสียงแหลมเล็กเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ลูกสุนัขพุนธุ์ชิสุ


วีดีโอ 

สุนัขพันธุ์ ปั๊ก


ปั๊ก (Pug)


รูปภาพ Pug หมาปั๊ก น่ารักที่สุด

 ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ปั๊ก เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ดึงดูดให้ต้องหลงใหลทั้งความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ที่มีอยู่ในปั๊กสุนัขที่น่ารักพันธุ์นี้ ถ้ามีพื้นที่น้อยหรืออาศัยในห้องชุด ปั๊ก จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ พวกเขาไร้ซึ่งกลิ่นอับที่อาจพบในสุนัขเล็กพันธุ์อื่น มีขนที่สั้นและไม่ค่อยมีการผลัดขน จึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์ ปั๊ก กระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขนี้มาก

     เนื่องจากปั๊กได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลียม โดยการเตรียมให้รู้ว่าพวกสเปนได้ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนฝรั่งเศส มเหสี นโป-เลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ปลอกคอของ ปั๊ก ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนางถูกจับขังไว้ที่ LESCARMES เหตุการณ์นี้เกิดในปี 1970


 ลักษณะนิสัย

     ปั๊ก นั้นโดยส่วนใหญ่จะซน สามารถอยู่ในที่เล็กๆได้หรือสามารถอยู่ร่วมกันหลายตัวได้

 การดูแล


     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก โดยส่วนมากจะขี้เกียจ ถ้าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มีอุปกรณ์ฝึกเขา ให้พาเขาเดินหรือเล่นเกม โยนของไปให้เขาเก็บทุกวัน แต่อย่าให้เขาออกกำลัง กายหนักๆในช่วงที่ มีอากาศร้อนหรือหลังกินอาหารเสร็จ

     ปั๊ก เป็นสุนัขที่ฉลาด และมีแนวโน้มที่จะดื้อไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ง่ายเลยที่จะฝึกสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ก็สามารถฝึกได้ และจะทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่ ดีต่อไป ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือศูนย์ฝึก ที่สามารถฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งจะช่วย แนะนำคุณได้ และจะแนะนำทุกอย่าง ที่เจ้าของสุนัขควรรู้ เพื่อทำให้ ปั๊ก ตัวน้อยเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขที่ชอบอยู่กับคนดังนั้นเขาจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวตลกโดยธรรมชาติและจะทำให้ คุณหัวเราะได้เสมอ พวกเขานอนกรน หายใจเสียงดัง ทำเสียงฟึดฟัดในจมูก หายใจออกแรง และจามใส่หน้าของคุณ


วีดีโอ สุนัขพันธุ์ ปั๊ก



สุนัขพันธุ์บลูด๊อก




เฟรนซ์ บลูด็อก(French Bulldog) จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขขนาดเล็กค่ะ กลุ่มนี้จะมีความสูงน้อยกว่า 46 ซม. เนื่องจากมีขนาดเล็กจึงทำให้ได้รับความนิยมเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนมาก แม้ว่าในอดีตบางพันธุ์อาจจะนิยมเลี้ยงในแวดวงจำกัด เฟรนซ์ บลูด็อกเป็นสุนัขขนาดเล็ก รูปร่างป้อมๆ ขาสั้น  กะทัดรัด ปากจะกว้างเวลามองดูแล้วเหมือนจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่หัวค่อนข้างใหญ่ ใบหูคล้ายหูค้างคาว มีปัญหาของระบบทางเดินหายใจน้อยกว่าพันธุ์อังกฤษค่ะ ดังนั้นแล้วอย่าปล่อยให้อ้วนนะค่ะ สืบสายพันธุ์มาจากสุนัขทอย บลูด็อก นำเข้ามาในฝรั่งเศสราวคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นสุนัขที่มีความน่ารัก น่าเอ็นดูค่ะ ใครที่ได้เห็นแล้วต้องยิ้มออกแน่นอนค่ะ ด้วยท่าทางการเดินที่เป็นเอกลักษณ์ ชอบเดินสายสะโพกไปมา มีนิสัยร่าเริง เข้ากันได้ดีกับทุกเพศทุกวัยค่ะ และอีกอย่างก็ยังเป็นที่นิยมมากตอนนี้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ

อุปนิสัย  ก็คงเหมือนและคล้ายกับสุนัขหลายๆตัว ที่มีความเฉลียวฉลาด ร่าเริง ขี้เล่น ชอบออกกำลังกายบ้าง เป็นมิตรกับสุนัขตัวอื่นๆ เป็นสุนัขที่มีนิสัยไม่ค่อยเห่าเท่าไหร่นัก ทนสภาพอากาศที่ร้อนไม่ค่อยได้ บางทีถึงกับทำให้เขาเครียดได้ เนื่องจากอากาศที่ร้อน โดยเฉพาะตัวที่นำเข้าจากต่างประเทศค่ะ ส่วนตัวที่อยู่ในประเทศไทยเราเองนั้นจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ถึงมีก็น้อยค่ะ อาจจะเป็นที่ความเคยชินกับสภาพอากาศที่ไทยนั่นเอง

การดูแล บลูด็อกเป็นสุนัขที่มีขนสั้น เรื่องการดูแลจึงไม่ค่อยยุ่งยากมากนัก ขนของเขาจะผลัดในช่วงหน้าร้อน พาบลูด็อกไปออกกำลังกายบ้าง อาจจะเป็นใกล้ๆบ้านหรือบริเวณรอบๆบ้านเราก็ได้ค่ะ แต่ก็ให้สังเกตอาการของบลูด็อกด้วยนะค่ะว่าระบบการหายใจของเขาปกติดีหรือไม่ ถ้าหายใจถี่ต้องรีบพาเข้าที่ร่มนะค่ะหรือไม่ก็ให้พาไปพบแพทย์ค่ะ เพื่อจะทำการดูแลรักษาได้ถูกวิธีและดีที่สุดค่ะ และเป็นการป้องกันการชักของเจ้าบลูด็อกด้วยค่ะ



ลักษณะพิเศษของ เฟรนซ์ บลูด็อก(French Bulldog)
ส่วนสูง31 ซม. น้ำหนัก 10-13 กก.
ศรีษะมีลักษณะคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ตากลมสวยแบ๊วค่ะ อยู่ห่างจากหูพอสมควร
ริมฝีปากจะหนาและกว้าง มีกรามที่แข็งแรงมาก
เท้าหลังจะใหญ่กว่าเท้าหน้า
ส่วนขาหน้าค่อนข้างสั้น ตรงแต่ก็มีคาวมแข็งแรง ขาหลังจะตรง
กะโหลกกว้างและค่อนข้างแบนโดยเฉพาะบริเวณระหว่างหูค่ะ
หลังลาดลง
กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วงอกกว้างรูปทรงกลม


วีดีโอ เฟรนซ์ บลูด็อก